ที่เป็นเบ้าหลอมจิตแห่งวิญญาณของมนุษย์ กลับมีบุคคลไม่กี่คน ที่มีอิทธิพล ทำให้ครูต่างกัน แยกประเภท แยกศักดิ์ศรี แยกฐานะ ของความเป็นครูโดยสิ้นเชิง อาทิเช่น ครูรัฐบาล ครูอัตราจ้าง ครูบ้านนอก ครูมหาวิทยาลัย ครูเอกชน ครูกศน. ครูประถม ครูมัธยม ครูบนดอย ครูเทศบาล วิทยฐานะชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ ประเภทของครูเหล่านี้ และวิทยฐานะเหล่านี้ เป็นคำตอบสำหรับผู้ประกอบอาชีพครูได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แล้วใครผู้ใดที่ไหนมาแยกประเภทครูเหล่านี้ หากแต่เป็นองค์กรผู้ควบคุมครูนั่นเองที่กำหนดคุณลักษณะ คุณสมบัติของครูทั้งหมดเอาไว้ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าน้อยใจประการใด แต่อยากจะเห็นองค์กรผู้ควบคุมครูทั้งประเทศได้ให้โอกาส คำว่า ครู มากกว่านี้ ไม่โอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง มากจนเกินไปจนทำให้อาชีพครูเป็นอาชีพที่ใครๆ ก็ไม่อยากทำ ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องของผู้เขียนเอง ผู้เขียนเคยเป็นครูอัตราจ้างของโรงเรียนเอกชน 3 ปี และหลักจากนั้นก็ได้รับการบรรจุต่อมาแต่การบรรจุยังไม่ถึง 5 ปีดังที่กล่าวไว้ข้างต้นผู้เขียนไม่ได้จบหลักสูตรครูโดยตรง และไม่มีประกาศนียบัตรวิชาชีพครู ซึ่งผู้เขียนสอนในระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ ปวส. สายบริหารธุรกิจ ถ้าเทียบก็คือระดับอุดมศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี (อนุปริญญา)โดยมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้ที่ได้ศึกษามาสั่งสอนศิษย์และได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทในสายบริหารธุรกิจ ซึ่งเป็นสายที่ตรงกับสายวิชาการสอนโดยไม่เบี่ยงเอนแม้แต่นิด เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการศึกษา 300,000 บาท พอ 2 ปีให้หลังหลังจากที่ผู้เขียนจบการศึกษามาแล้ว คณะผู้บริหารสถาบันได้แจ้งว่าครูท่านใดที่ไม่มีวุฒิทางด้านการศึกษาต้องไปเรียนต่ออีก 1 ปี ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะมีสิทธิ์ ในการสอนได้ ความนัยน์นั่นคือ ถ้าผู้เขียนยังอยากจะทำงานในอาชีพนี้อยู่จะต้องลงทุนอีกประมาณ 20,000 บาทในการศึกษาต่ออีก 1 ปี แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าผู้เขียนได้กู้เงินธนาคารในการศึกษาต่อปริญญาโทและยังใช้หนี้ไม่หมด และต้องมาเรียนวิชาชีพเพิ่มอีก 1 ปี ถ้าไม่เรียนก็ไม่สามารถทำการสอนได้ นี่เป็นปัญหาเพียงแค่นี้ใช่หรือไม่ แน่นอนครับ ไม่ใช่ เพราะปัญหามากกว่านั้นครับนั่นคือความแตกต่างของคำว่าครูไง เงิน 20,000 ถ้าเป็นประเภทของครูเอกชนอาจจะเป็นเงินที่มากโข เลยทีเดียวอาจจะเป็นเงินเดือนตั้ง 3 เดือน หรือ 4 เดือนก็เป็นได้ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนุกแน่นอน นี่เป็นแค่ส่วนประกอบเล็ก ๆ ของความแตกต่างประเภทหนึ่งของ ครู แต่สำหรับผู้เขียนเองก็คงต้องยอมรับแล้วครับว่าอาชีพที่เหมาะสมกับผู้เขียนมากที่สุดคืออาชีพ ครู เพราะผู้เขียนมีความศรัทธาในอาชีพครูไม่น้อยกว่าครูคนใด อีกมุมมองของความแตกต่างนั่นก็คือ Income ในภาษาของนักธุรกิจหรือรายได้นั่นเอง ทำไมมีความต่างกัน ซึ่งผู้เขียนไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ละเอียดเพราะ ครูแต่ละประเภทจะทราบกันดีอยู่แล้ว และที่สำคัญที่สุดคือผู้ที่ควบคุมครูที่รู้มากที่สุด
ท่านผู้อ่านครับไม่ใช่เรื่องง่ายที่บุคคลคนหนึ่งจะเลือกทางเดินของชีวิตทั้งชีวิตมาเป็น ครู แต่บุคคลคนนั้นเขาเลือกเพราะหัวใจของเขาคือ ครู ผู้เป็นหนึ่งในเสมาที่มีมุมมองที่กล้าคิดกล้าทำโปรดอย่าแบ่งกั้นหรือกีดกันเขาโดยวิธีการการวิธีการหนึ่งเลย สนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ที่เป็นครูได้มีโอกาสเหมือน ๆกันดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม แล้วครูจะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตผลิตผลแห่งความเป็นมนุษย์ให้สังคมไทยได้อย่างยั่งยืน
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเยี่ยมเป็นกำลังใจให้ครับผม
ตอบลบ